Agarwood Essential oil (Oud) น้ำมันหอมระเหยไม้กฤษณา ชนิดเจือจาง 10% ไทย

• Agarwood crassna (Oud) 100% Pure Essential oil, Thailand

Botanical Name:         Aquilaria crassna
Origin:          Thailand
Method of Extraction: Steam Distilled
Parts used: Infected Wood
Color:         Golden Yellow
Perfumery Note: Base 
Consistency: Medium
Aromatic Description: Warm woody, Light Spicy, Sweet, Balsamic & Rich
Blends well with: Most oils but commonly blended with premium/perfumery quality oils such as Frangipani, Frankincense, Jasmine, Neroli, Osmanthus, Rose, Sandalwood 
Initial Strength:         Medium
Class: Sesquiterpene

       Agarwood diluted 10% oil สำหรับผู้เริ่มต้นเพื่อการใช้งานที่ง่ายและสะดวกขึ้น น้ำมันกฤษณาถึงแม้จะถูกเจือจางลงในระดับ 10% กลิ่นก็ยังคงความหอมเข้มข้นอยู่มาก
       Agarwood หรือไม้กฤษณาจัดเป็นหนึ่งในน้ํามันหอมระเหยที่หายากและแพงที่สุดตัวหนี่ง ต้นกฤษณาชอบขึ้นในที่ชุ่มชื้น ป่าดงดิบหรือที่ราบริมแม่น้ำเป็นไม้ยืนต้นสูงขนาด 18-30เมตร ในประเทศไทยจัดเป็นจัดเป็นไม้หวงห้ามประเภท ข. และไม่อนุญาตให้ทำการตัดฟัน (เฉพาะในป่า)
เดิมมีหลายสายพันธ์กระจายอยู่ในหลายๆประเทศและถูกทำลายจากมนุษย์ จนใกล้สูญพันธุ์จนได้รับการคุ้มครองทั่วโลกภายใต้ CITES (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศในสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้สูญพันธุ์) ปัจจุบันมีการส่งเสริมปลูกในเชิงพาณิชย์มากขึ้นและมีวิธีการกระตุ้นสารด้วยเทคนิคต่างๆเพื่อร่นเวลาการนำมาใช้ประโยชน์และมีคุณภาพที่สม่ำเสมอ มีการแบ่งเกรดของไม้ ตลอดจนเกรดของน้ำมันหอมระเหยจากระยะเวลาที่บ่มเก็บ

      โดยธรรมชาติเมื่อต้น Agarwood ถูกรบกวนไม่ว่าจะจากแมลงหรือความเสียหายจากเนื้อเยื่อภายในที่อ่อนไหวต่อการติดเชื้อจากจุลินทรีย์ ต้นไม้จะตอบสนองโดยการผลิตโอเรโอ เรซิน (Oreo resin)ซึ่งจะปรากฏเป็นสีดำในเนื้อไม้ที่มีกลิ่นหอมและเป็นต้นกําเนิดตำนานของกลิ่นหอมที่แสนพิเศษนี้
True agaru หรือเรียกว่า ไม้ลูกแก่น คือเกรดที่ดีที่สุด ซึ่งมีน้ำมันสะสมอยู่ในเนื้อไม้และมีสีดำ หนักและจมน้ำได้ แม้เพียงไม้ชิ้นเล็กๆ เมื่อนำไปจุดไฟ ก็จะได้กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณห้อง
น้ำมันกฤษณา มีการนำมาใช้ปรุงแต่งในเครื่องหอมมาช้านาน โดยเฉพาะทางฝั่งยุโรปและตะวันออกกลาง ติดผิวกายทนนาน  มีกลิ่นหอมที่ซับช้อนค่อนไปทางหวานอุ่น วู้ดดี้ และขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ พื้นที่ปลูก และระยะเวลาที่เก็บบ่ม ก็จะได้กลิ่นหอมที่แตกต่างกันไป
      ในประเทศอาหรับที่อาศัยในทะเลทรายจะมีไรชนิดหนึ่งที่เกาะอาศัยบนผิวคนและนำพาเชื้อโรคกลุ่มมัยโคพลาสมามาสู่มนุษย์ และไรชนิดนี้ทนต่อน้ำมันหอมระเหยอื่นๆ แต่แพ้สารจากกลิ่นน้ำมันหอมระเหยกฤษณา และนำไปใช้เพื่อประทินผิว เป็นน้ำมันหอมระเหยที่จัดเป็นของกำนัลที่มีค่าและราคาแพง
ในทางอโรมาเทอราปี นำมาใช้ประโยชน์ในการลดอาการซึมเศร้า เพิ่มสมาธิ การจดจำ และการเชื่อมโยงกับพระเจ้า และเรียกขานกันว่า The scent of heaven หรือ  The invisible communicator of love.
การนำมาใช้ผสมกับน้ำมันหอมระเหยตัวอื่นๆ ใช้เพียงน้อยนิด ก็จะช่วยเรื่องการตรึงกลิ่นได้ดีมาก
สารหลักในน้ำมันหอมระเหยตัวนี้คือ Sesquiterpene alcohol (Agarospirol, -Agarofuran, Agaro และ Dihydroagarofuran)
Agrawood ที่เราคัดเลือกมา ได้จากการปลูกที่ถูกต้องตามข้อกำหนดซึ่งเก็บเกี่ยวได้อย่างยั่งยืนและปลูกใหม่เป็นระยะ

     คำเตือน: น้ำมันหอมระเหยอาจเป็นอันตรายได้หากใช้ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ การนำเสนอข้อมูลมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาและให้ความรู้เท่านั้น การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับการตัดสินในของผู้ใช้ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเหมาะสำหรับวัถตุประสงค์และความต้องการหรือไม่ ควรพิจารณาเป็นพิเศษในการเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เด็กหรือผู้สูงวัย หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้น้ำมันหอมระเหย และหากใช้น้ำมันหอมระเหยกับผิวหนังควรเจือจางก่อนอย่างถูกต้องตามคำแนะนำและควรทดสอบกับผิวในบริเวณแคบก่อนเพื่อตรวจสอบการแพ้ก่อนการใช้นวดทั้งตัว ผลิตภัณฑ์นี้เป็นการผสมผสานน้ำมันหอมระเหยน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100%  และไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและสารกันบูดใดๆ