Jasmine Sambac -น้ำมันหอมระเหยมะลิ แซมแบค(แอปโซลูท)ชนิดเจือจาง 10% -India

Jasmine Premium Absolute Dilute 10% ( With JOJOBA Oil -Organic )
Botanical Name:          Jasminum sambac
Origin:                          India
Method of Extraction: Food Grade Solvent extract
Parts used:                  Flowers
Color:                           Orange to Red/Brown
Perfumery Note:          Middle to Base
Consistency:                Medium
Aromatic Description: Strong Floral Aroma slightly more Musky than grandiflorum
Blends well with:     Agarwood, Bergamot, Black Pepper, Cananga, Cardamom, Cedarwood, Celery Seed, Chamomile, Champaca, Clary Sage, Clove, Coriander, Cypress, Frankincense, Geranium, Geranium Rose, Ginger, Helichrysum, Immortelle, Lavandin, Lemon, Lime, Mandarin, Myrrh, Neroli, Opoponax, Orange, Osmanthus, Patchouli, Petitgrain, Rose, Rose Geranium, Rosewood, Sandalwood, Tagetes, Tangerine, Tuberose, Vetiver, Wintergreen, Ylang Ylang, Yuzu
Initial Strength:       Strong
Class:                          Ester
         Jasmine sambac หรือ มะลิลามีกลิ่นหอมที่ทุกคนหลงรักเป็นอันดับต้นๆ ดอกมีสีขาว มะลิมีกว่า 400 สายพันธ์ทั่วโลก และพบเจอประมาณ 15 สายพันธุ์ในประเทศไทย มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางตั้งแต่ยุคโบราณทั้งในพิธีกรรมต่าง ๆ และเครื่องหอมและสำหรับดูแลสุขภาพ
         Jasmine sambac เป็นมะลิที่บานส่งกลิ่นหอมในช่วงตอนเย็นจนจนถึงวันรุ่งขึ้นชึ่งตรงข้ามกับ Jasmine Grandiflorum ที่จะเบ่งบานในช่วงรุ่งอรุณ
ที่นิยมนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยมีอยู่ 2 ชนิด คือ Jasmine sambac และ Jasmine Grandiflorum ซึ่งตัว Jasmine sambac ที่เข้มหนักกว่าในขณะที่ Jasmine Grandiflorum จะหอมติดหวานมากกว่า มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน มีกลิ่นที่หอมหวาน ผ่อนคลาย ปลอบโยนส่งเสริมความรักและปลดปล่อย มีกลิ่นหอมเย้ายวนและโรแมนติก และถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอมมากที่สุดตัวหนึ่ง
         มีสรรพคุณลดไข้แก้หวัดในทางสุคนธบำบัดใช้ในการกระตุ้นระบบประสาทสำหรับผู้ที่มีภาวะอ่อนล้าทางจิตใจ อ่อนเพลีย บรรเทาอาการปวดศีรษะในผู้ที่มีความเครียด ความกลัวช่วยปรับสมดุลของจิตใจให้ดีขึ้น ฟื้นฟูกำลังใจ บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและอาการปวดประเดือน(PMS) ช่วยบำรุงผิวพรรณโดยเฉพาะผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และช่วยลดแผลเป็น ตามตำราจีนและอินเดียเชื่อว่ามะลิมีสรรพคุณบรรเทาความเครียดของจิตใจและของกล้ามเนื้อ ช่วยกระตุ้นระบบสืบพันธุ์ การดื่มชามะลิจึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ส่วนตำรายาไทย “ดอกมะลิ” จัดเป็นยาในพิกัดเกสร ทั้ง 5, ทั้ง 7 และทั้ง 9 จัดเป็น “ยารสหอมเย็น”
มะลิจัดเป็น Top list ของผู้หญิงหลายๆคนในกลุ่ม perfumery มีกลิ่นทนนาน แทบจะเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ใช้ผสมกับน้ำมันหอมระเหยตัวอื่นๆมากที่สุดตัวหนึ่งแม้แต่ในน้ำหอมของผู้ชาย เพราะจริงๆ แล้วมะลิถูกเรียกขานเป็น 'King of Oils' จัดเป็นหนึ่งในน้ำมันหอมระเหยที่ราคาสูง มีกลีบดอกชั้นเดียว ปลายกลีบมน มีกลีบบอบบาง ไม่ทนความร้อน และต้องใช้ดอกมะลิกว่า 8000 ดอกต่อน้ำมันหอมระเหย 1 มล หรือประมาณ 20 หยด
โดยต้องเก็บดอกมะลิกว่า 8 ล้านดอกเพื่อการผลิต 1 กิโลกรัมของน้ำมันหอม และต้องเก็บตอนกลางคืนถึงเช้ามืด เพราะเป็นช่วงที่ส่งกลิ่นดีที่สุด และหนึ่งคนจะสามารถเก็บดอกมะลิได้ไม่เกิน 15000 ช่อดอก หายแปลกใจแล้วนะคะว่าทำไมกลุ่มน้ำมันหอมระเหยดอกไม้จึงราคาสูง 
ข้อแนะนำในการนำไปใช้
- หยดเตาน้ำมันหอมระเหยกระจายกลิ่น
- สามารถใช้โดยผสมน้ำมันพื้นฐานหรือเบสโลชั่น ใช้นวดตัว หรือเบสแชมพูใช้สระผม ในอัตราส่วน 0.5% -3 %
- ผสมในโลชั่นทาผิวไม่เกิน 3 %
- หยด 3-4 หยด ผสมกับน้ำมันเบสหนึ่งช้อนโต๊ะ ผสมลงในอ่างน้ำอุ่นสำหรับแช่ตัว
- หยด 1-2 หยดใส่สำลีหรือทิชชูสอดไว้ใต้หมอน
ข้อควรระวังก่อนนำไปใช้
- ใช้ภายนอก ห้ามรับประทาน
- ไม่ควรใช้ในสตรีมีครรภ์ เด็กเล็ก และผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย และควรใช้อย่างระมัดระวัง
- ห้ามสูดดมโดยตรงต้องทำให้เจือจางก่อน
คำเตือน: น้ำมันหอมระเหยอาจเป็นอันตรายได้หากใช้ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ การนำเสนอข้อมูลมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาและให้ความรู้เท่านั้น การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับการตัดสินในของผู้ใช้ว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเหมาะสำหรับวัถตุประสงค์และความต้องการหรือไม่ ควรพิจารณาเป็นพิเศษในการเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เด็กหรือผู้สูงวัย หากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้น้ำมันหอมระเหย และหากใช้น้ำมันหอมระเหยกับผิวหนังควรเจือจางก่อนอย่างถูกต้องตามคำแนะนำและควรทดสอบกับผิวในบริเวณข้อพับก่อนเพื่อตรวจสอบการแพ้ก่อนการใช้นวดทั้งตัว ไม่ควรให้ใช้ในระหว่างการตั้งครรภ์