Article 1-23- What is Aromatherapy & Essential Oils

 

What is Aromatherapy ?

สุคนธบำบัด หรือ Aromatherapy มาจากศัพท์ 2 คำคือ Aroma หมายถึง กลิ่นหอม และ Therapy หมายถึง การบําบัด ซึ่งเป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของการนำน้ำมันหอมระเหยจากพืชมาใช้เพื่อสร้างเสริมและปรับสมดุลของร่างกาย จิตใจ อารมณ์และจิตวิญญาณ นำมาซึ่งความสุข และความสุนทรีย์โดยวิธีธรรมชาติ

สุคนธบำบัด คือ การจัดการดูแลสุขภาพโดยการใช้กลิ่นจากพืชสมุนไพร หรือที่เรียกกันว่าน้ำมันหอมระเหย ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพและความงาม โดยในปัจจุบัน มีผู้ให้ความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ที่มีวิชาชีพเกี่ยวข้องกับสุคนธบำบัด จะต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเพื่อการนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ สุคนธบำบัดเป็นศาสตร์ทางเลือกที่นำมาใช้ร่วมกับการดูแลรักษาสุขภาพ และแทรกอยู่ในทุกแขนง เนื่องจากสามารถบำบัดทั้งในด้านร่างกาย (Physical) ทางด้านจิตใจ (Psychological) และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีภายในร่างกาย (Medicinal) จึงสามารถนำมาประยุกต์ร่วมกับแพทย์แผนไทย การแพทย์อายุรเวท ศาสตร์แพทย์แผนจีน และการทำสมาธิหรือโยคะ

กลิ่นมีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เราลืมตาตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน น้ำมันหอมระเหยส่งผลต่อร่างกายและจิตใจอย่างลึกซึ้ง ตัวอย่างเช่น เมื่อเรารับกลิ่นลาเวนเดอร์ผ่านการสูดดม กลิ่นจากสารที่มีอยู่ในน้ำมันหอมระเหยเหล่านั้น จะสื่อสารเข้าไปถึงส่วนกลางของสมองที่เชื่อมโยงกับจิตใต้สำนึก ส่งผลให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ร่างกายได้ปลดปล่อยความเครียดและปรับสมดุล ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ได้มีการทดลองการสูดดมน้ำมันหอมระเหยจากพริกไทยดำซึ่งช่วยลดอาการอยากสูบบุหรี่และภาวะการจดจำบกพร่องได้ หรือยูคาลิปตัส ที่ช่วยเรื่องระบบทางเดินหายใจ อาการหวัด หรือนำมาใช้นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น จึงถือว่าเป็นการนำพลังงานจากธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ในการบำบัดรักษาโดยแท้จริง

ส่วนสุขภาพองค์รวม Holistic (มาจากรากศัพท์ภาษากรีก คือ ‘Holos’ หมายถึง ‘Whole’) หมายถึง การดูแลความสมดุลของร่างกาย (Physical) จิตใจ(Psychological) ปัญญาหรือจิตวิญญาณ (Spiritual) อารมณ์ (Emotional) และสังคม (Social) เพื่อให้อยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน และครอบคลุมถึงการดํารงชีพที่มีความสุขและยืนยาว ซึ่งในกรอบความคิดของการบำบัดรักษามีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาเพื่อที่ร่างกาย จิตใจและปัญญาจะได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันและมีสุขภาวะที่ดี

สุคนธบำบัด จึงมีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพองค์รวม เพื่อลดการรักษาโดยการแพทย์สมัยใหม่ที่ต้องพึ่งพายาในการรักษาให้น้อยลง

 

 


What are Essential Oils ?

น้ำมันหอมระเหย คือ ส่วนประกอบจากพืชหรือสารอินทรีย์ที่พืชสร้างขึ้นตามส่วนต่าง ๆ เพื่อดึงดูดแมลงมาผสมเกสร หรือเพื่อปกป้องตนเองจากศัตรูภายนอกที่จะมาทำลาย เช่น สร้างสารที่ป้องกันเชื้อ

ก่อโรค ซึ่งอาจเป็นดอก ใบ กิ่ง เปลือกผลไม้ เมล็ดหรือราก ที่มีกลิ่นหอมและระเหยได้ โดยในน้ำมันหอมระเหยหนึ่งชนิดนั้น จะประกอบด้วยสารประกอบที่มีความซับซ้อนจากธรรมชาติที่รวมตัวกันโดยมีองค์ประกอบทางเคมีตั้งแต่ 50 ถึง 500 ชนิด ซึ่งมีความแตกต่างกันของชนิดและปริมาณ องค์ประกอบเหล่านี้ก่อให้เกิดความเฉพาะตัวของกลิ่นในพืชแต่ละชนิด  และเมื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการสกัดในรูปแบบต่าง ๆ กันตามความเหมาะสมของพืชนั้น ๆ ให้ได้สารซึ่งจัดว่ามีความบริสุทธิ์เข้มข้นสูงจึงเรียกว่า

น้ำมันหอมระเหย สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมายมหาศาลในหลายอุตสาหกรรม ทั้งในการป้องกันและรักษาโรค อุตสาหกรรมอาหาร การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพความงาม และการดูแลเส้นผม ในทางสุคนธบำบัดที่ช่วยในการผ่อนคลาย ปรับสมดุลของฮอร์โมน การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ตลอดจนประโยชน์ที่นำมาใช้ในทางบ้านเรือน การไล่แมลง การทำความสะอาดเครื่องเรือน กลิ่นปรับอากาศ เป็นต้น

ทั้งนี้ในโลกเรามีต้นไม้นับพันชนิด แต่จะมีเพียง 200 กว่าชนิดที่สามารถผลิตน้ำมันหอมระเหยได้ ซึ่งในต้นไม้บางชนิดซึ่งถ้าเราศึกษาลึกลงไป ก็จะสามารถเลือกน้ำมันหอมระเหยมาใช้ได้อย่างเหมาะสมและเป็นศาสตร์ทางเลือกเพื่อการดูแลสุขภาพที่ดี และลดการพึ่งพายาแผนปัจจุบันและสารเคมีต่าง ๆ ได้ แต่กระนั้นพืชบางชนิดที่มีสรรพคุณทางสมุนไพร แต่อาจจะไม่สามารถนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยได้ เช่น อัญชัน ใบเตย ใบบัวบก เปลือกมังคุด สำหรับพืชเหล่านี้จะมีการนำมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบของสารสกัด (Extract) เป็นส่วนใหญ่

ในประเทศไทย มีพืชหอมมากมายหลากหลายชนิดที่สามารถนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยได้ แต่เรายังต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลักถึงแม้จะเป็นพืชที่เราบริโภคในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เช่น ขิง ข่ามะนาว อบเชย สะระแหน่ กะเพรา มะลิ จำปี กระดังงาและอื่น ๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะขีดจำกัดในการพัฒนามาตรฐานการผลิตเชิงอุตสาหกรรมเมื่อเทียบเคียงกับประเทศใกล้เคียงอื่น ๆ เช่น อินโดนีเซีย อินเดีย จีนนับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ขาดการสนับสนุนหรือพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

*สารหอมที่ได้จากสัตว์ เช่น Ambergris จากการสำรอกของวาฬ, Deer Musk pod ถุงที่อยู่ระหว่างอวัยวะสืบพันธุ์และช่องท้องของกวาง, Civet ไขชะมด และบีเวอร์ ที่ได้จากสิ่งขับถ่าย เมื่อทิ้งไว้ระยะหนึ่ง กระบวนการทางเคมีจะเปลี่ยนให้มีกลิ่นหอมขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมีราคาสูง หายาก และนำไปใช้ในกลุ่มเครื่องหอม (Perfumery) ซึ่งมีราคาสูง ในท้องตลาดปัจจุบันจะเป็นตัว Synthetic หรือน้ำมันสังเคราะห์เป็นส่วนใหญ่และแบ่งคุณภาพออกเป็นหลายเกรด